วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

อนุทินที่ 5


ลิสต์343คดีพระธัมมชโย-ธรรมกายทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สรุปยอดการดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และวัดพระธรรมกาย รวม 343 คดี โดยออกหมายจับแล้ว 15 คดี โดยจำแนกตามพื้นที่การกระทำความผิด ดังนี้

สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 194 คดี แบ่งเป็นความผิดฐานบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ 16 คดี ความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก 21 คดี ความผิดฐานกีดขวางการจราจร 5 คดี ส่วนความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ความผิดฐานเอาไปเสียซึ่งทรัพย์ที่เจ้าพนักงานยึดไว้ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ (ดีเอสไอ) ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ ตายโดยผิดธรรมชาติ ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ความผิดตาม พ.ร.บ.ยุทธภัณฑ์ ฐานความผิดละ 1 คดี

นอกจากนี้ ความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 132 คดี ความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาล 2 คดี ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 4 คดี ความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน 3 คดี

สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ 14 คดี อย่างไรก็ดี ศาลธัญบุรีอนุมัติหมายจับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เลขที่ 855/ ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2559 โดยเข้ามอบตัวแล้ว

สภ.เกาะยาว จ.พังงา รวม 104 คดี แบ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 99 คดี ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ปะการัง) ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน (ตัดต้นไม้ขวาง) และความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม (เสาและสถานีวิทยุ) ฐานความผิดละ 1 คดี ทั้งนี้ ศาลจังหวัดพังงาอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย เลขที่ จ.16/60 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ รวม 22 คดี แบ่งเป็นศาลจังหวัดสีคิ้วอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย เลขที่ 121/59 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ศาลจังหวัดพังงาอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย เลขที่ จ.6/60 ลงวันที่ 25 มกราคม 2560 หมายจับเลขที่ 17/60 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 และหมายจับเลขที่ 19/60 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ศาลจังหวัดพังงาอนุมัติหมายจับนายเพชร์ แก่นทรัพย์ เลขที่ จ.7/60 ลงวันที่ 25 มกราคม 2560 หมายจับเลขที่ 18/60 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 และหมายจับเลขที่ จ.20/60 ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น รวม 2 คดี โดยศาลอาญาอนุมัติหมายจับเลขที่ 109/60,110/60 และ 2470/59 ให้จับกุมนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กับพวกรวม 3 คน โดยทั้งหมดเข้ามอบตัวแล้ว

สภ.ภูเรือ จ.เลย รวม 6 คดี แบ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 3 คดี ความผิดฐานออก น.ส.3ก.โดยมิชอบ 2 คดี และความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 1 คดี โดยศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับพระธัมมชโย เลขที่ 174/2559 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2559 และหมายจับเลขที่ 175/2559 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ให้ดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย โดยพระธัมมชโย

สภ.อุ้มผาง จ.ตาก ความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยศาลจังหวัดแม่สอดอนุมัติหมายจับพระธาดา เลขที่ จ.142/59 ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2559



ที่มา: ลิสต์343คดีพระธัมมชโย-ธรรมกายทั่วประเทศ, สืบค้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 60, จากเว็ปไซต์มติชนออนไลน์: http://www.matichon.co.th/news/479007


วิเคราะห์ข่าวที่เกี่ยวข้องกับพระ

          จากการที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ กล่าวคือประชากรส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพุทธศาสนา และปฏิบัติตามคำสอนอย่างเคร่งครัด มีวัดมากมายซึ่งเป็นสถานกอปรกิจทางศาสนา โดยมีพระสงฆ์ผู้เป็นสาวกของพุทธศาสนาผู้รักศีล ค่อยชี้นำเผยแพร่ศาสนาไปยังประชาชนทั่วไป จึงเป็นเหตุให้มีมารศาสนาปรากฏขึ้น นำศรัทธาของผู้คนมาหากิน โดยบิดเบือนหลักธรรมคำสอนให้เพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก อวดอุตริ พูดจากลับกลอกยอกย้อนให้ผู้คนหลงศรัทธา และล้างสมองไปในที่สุด วัดธรรมกาย ซึ่ง ธรรมชโย หรือ นายไชยบูลย์ สิทธิผลเป็นเจ้าอาวาส กอปรกิจในลักษณะที่มิใช่เพจบรรพชิต การทำผิดกฏหมายบ้านเมืองในหลายๆ คดี ซึ่งทางตัวนายไชยบูลย์ มีหมายจับในหลายคดี อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม ยังเป็นข้อกังขากับศิษยานุศิษย์หรือสาวกของวัดนี้เป็นอย่างมาก เพราะได้ทำการขัดขวางเจ้าหน้าที่ในการบุกค้นวัดเพื่อที่จะนำหมายจับเข้าจับกุมนายไชยบูลย์ และเป็นเหตุให้มีเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายต่างๆ นาๆ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนทั่วไปอย่างมาก เป็นเหตุให้มีประเด้นคำถามเกิดขึ้นมามากมาย อย่างไรก็ตาม หากธรรมชโย หรือ นายไชยบูลย์เป็นผู้บริสุทธิ์จริงก็ควรออกมามอบตัว และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ประจักษ์แก่สาธารณชนทั่วสากลโลกด้วยเทอญ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น